ความเมตตา ความปรารถนาที่จะช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความจริงใจ จะทำให้เขาเหล่านั้นมีความรู้สึกในเชิงบวกคืนกลับมา เมื่อคุณปฏิบัติต่อตัวเองและผู้อื่นด้วยความเห็นอกเห็นใจ ก็มีแนวโน้มที่จะช่วยให้เกิดความเชื่อใจ ความไว้วางใจ ความเต็มใจที่จะช่วยเหลือกันทำงาน เมื่อพนักงานไม่รู้สึกว่าที่ทำงานคือสนามแข่งขันที่มีแต่คนแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นอย่างไม่เห็นหัวใคร พวกเขาก็จะรู้สึกปลอดภัย ล้มเหลวน้อยลง และมีความอดทนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประสิทธิภาพและบรรยากาศในการทำงาน
1. มีคำแนะนำให้กับผู้ร่วมงาน
เราทุกคนรู้ดีว่า เราจะรู้สึกเครียดแค่ไหนเมื่อเราพบว่ามีอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่กำลังขัดขวางเส้นทางการทำงานของเราอยู่ ถ้าคุณกำลังพบว่าเพื่อนร่วมงานของคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในเรื่องที่คุณสามารถช่วยเหลือเขาได้หรือมีความชำนาญ ให้คำแนะนำหรือเทคนิคที่คุณมีเหล่านั้นกับเขาค่ะ ช่วยเขาให้ก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากพวกนั้นไปให้ได้จนสุดทาง
2. รู้จักเพื่อนร่วมงานของคุณ
คนส่วนใหญ่ชอบความรู้สึกที่ตัวเองกำลังเป็นส่วนหนึ่งของทีมหรือสามารถเชื่อมต่อกับคนอื่นได้ แค่แบ่งเวลาของคุณไปพูดคุย แนะนำตัวเอง กับคนที่คุณยังไม่ค่อยรู้จักในที่ทำงาน อาจจะถามถึงกิจกรรมยามว่างหรือครอบครัวของเขา ทักทายพวกเขาอย่างสม่ำเสมอและที่สำคัญอย่าลืมเอ่ยชื่อของเขาในเวลาที่พวกคุณกำลังพูดคุยกัน
3. ยื่นมือให้กับลูกน้องของคุณ
ยื่นมือของคุณออกไปถ้าคุณเห็นเพื่อนร่วมงานต้องอยู่ภายใต้ความกดดันหรือต้องแบกภาระที่หนักหนา ให้ความช่วยเหลือเขา เพื่อบรรเทาความเครียด แสดงออกว่าคุณใส่ใจดูแลและต้องการที่จะช่วยเหลือเขาจริง ๆ การช่วยเหลือคนอื่นไม่เพียงแค่สร้างแรงบันดาลใจแต่ยังทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขที่ได้ทำงานเพื่อคุณ (หรือกับคุณ)
4. สร้างสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความร่วมมือ
การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จะช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาให้เกิดขึ้นกับทุกคนในองค์กร เช่น การจัดการประชุมระหว่างพนักงานและผู้บริหารในการระดมสมองเพื่อกำหนดแนวทางในการบรรลุเป้าหมายขององค์กรร่วมกัน การเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในวิสัยทัศน์ เป็นต้น
5. รู้จุดเด่นของพนักงานและคุณลักษณะที่ดีเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น
คุณลองนึกย้อนกลับไปในตอนที่คุณยืนท่ามกลางเสียงปรบมือของคนทั้งกลุ่มมันเป็นอย่างไร มีค่าต่อความรู้สึกคุณแค่ไหน การสอนใครสักคนในเรื่องการปรากฏตัวถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มกำลังใจให้กับคนคนนั้นได้เช่นเดียวกันกับที่คุณเคยรู้สึก นอกจากนั้นคุณก็ควรค่อยมองหาโอกาสที่จะทำให้คุณได้เห็นจุดเด่นที่พนักงานของคุณมีและยินดีกับทุกความสำเร็จของพวกเขา
6. เป็นตัวอย่างโดยการเป็นหัวหน้าที่มีเมตตา
หัวหน้าที่ดีคือคนที่ดีจากหัวใจ เป็นผู้ที่มีความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นผ่านความเมตตา ความยืดหยุ่น การสนับสนุน และอำนาจ เมื่อคุณดูแลคนอื่นด้วยความเมตตาพวกเขาจะไม่มีวันลืมความดีของคุณ ไม่เพียงเท่านั้นผลของการเป็นหัวหน้าที่มีความเมตตานี้เองที่จะช่วยสร้างความภักดีให้กับพนักงานของคุณให้พร้อมที่จะทำงานเพื่อคุณ เพราะพวกเขารู้ว่าคุณสนใจพวกเขา
7. ตรวจสอบแรงจูงใจที่ซ้อนอยู่เบื้องหลัง การตัดสินใจ คำพูด และพฤติกรรมของคุณ
ตรวจสอบความคิดของคุณก่อนที่มันจะกลายเป็นการตัดสินใจ คำพูด หรือพฤติกรรมของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณบริสุทธิ์ใจที่จะทำทุกสิ่งเหล่านั้นจริง ๆ ถ้าคุณจับได้ว่าความคิดเหล่านั้นไม่ได้มาจากความซื่อสัตย์ ไม่ใช่เรื่องจริง ไร้ความปรานี หรือเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น ให้กลับมาคิดถึงมันอีกครั้งก่อนที่จะทำอะไรลงไป เพราะทุกคำพูดและทุกการกระทำล้วนก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบกลับเสมอ ซึ่งในบางครั้งมันอาจจะทำให้คุณพบว่า คุณไม่ควรทำบางตามความคิดของคุณเลยจริง ๆ คุณควรทำในสิ่งที่คุณแน่ใจว่ามันจะให้ผลเป็นบวกและก่อให้เกิดความเมตตาเถอะค่ะ เพราะการกระทำที่ให้ผลเป็นลบย่อมส่งผลเสียกับทุก ๆ คนแม้แต่ตัวคุณเอง
8. จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมความเป็นทีม
อาจจะเป็นการขออาสาสมัครเพื่อไปทำประโยชน์ให้กับสังคม ไปบริจาคเสื้อให้กับคนยากไร้ ไปทำอาหารให้กับเด็กกำพร้า ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ หรือรวมกลุ่มกันภายในองค์กรเพื่อร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจ ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมและการแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ก็จะส่งเสริมให้เกิดความรักใคร่กลมเกลียวกันภายในองค์กร อันจะนำไปสู่วัฒนธรรมความเมตตาภายในองค์กรนั่นเองค่ะ
9. ส่งเสริมให้พนักงานฝึกการสื่อสารอย่างมีสติ
ทำให้บรรยากาศในที่ทำงานของคุณเหมาะแก่การสื่อสารระหว่างพนักงานด้วยกัน เพื่อนร่วมงานคนไหนที่พูดอย่างเปิดเผยและแบ่งปันความคิดความรู้สึกกับผู้อื่นอย่างจริงใจ ก็มีแนวโน้มที่จะจับมือทำงานผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน สอนพนักงานของคุณให้รู้จักวิธีการตอบสนองที่ดีที่ส่งเสริมให้คนเกิดการพัฒนา ไม่ใช่ทำให้เขารู้สึกผิด แนะนำให้เขารู้จักการถามอย่างจริงใจและการรับฟังด้วยความใส่ใจ มอบความเอื้ออาทรให้กันและกัน ทำให้ที่ทำงานเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ ๆ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข
"No act of kindness, no matter how small, is ever wasted." —Aesop
“ความเมตตาใดก็ตาม ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ก็ไม่เคยสูญเปล่า” – อีสป
ที่มา www.chopra.com
ภาพจาก fthmb.tqn.com
Admin : Gossy